เนื่องจากชื่อเรื่อง “แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์” เป็นชื่อของสำนวนไทยที่อ้างอิงถึงตำนานความเชื่อและเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์สมัยกรุงเทพฯ ซึ่งมีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ไทยอยู่หลายครั้ง โดยมีรายงานโปรเจกต์ใหม่ที่ใช้ชื่อนี้และมีกำหนดเข้าฉายในปี 2025
อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ที่ใช้ชื่อนี้และมีรายละเอียดการรีวิวหรือคะแนน IMDB ที่ชัดเจนแล้วนั้น ยังไม่พบข้อมูลที่เพียงพอในปัจจุบัน ข้อมูลที่มีจะเป็นการกล่าวถึง โปรเจกต์ภาพยนตร์สยองขวัญ เรื่องใหม่ที่กำลังจะสร้างเท่านั้น
ดังนั้น บทความรีวิวนี้จะอ้างอิงตามข้อมูลของ โปรเจกต์ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง “แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์” ที่มีรายงานว่าจะเข้าฉายในปี 2025 ซึ่งยังไม่มีข้อมูลคะแนน IMDB หรือการรีวิว/สปอยล์อย่างเป็นทางการ

บทความวิเคราะห์ภาพยนตร์: แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์ (2025)
คะแนน IMDB (คาดการณ์): ยังไม่มีคะแนน (ภาพยนตร์ยังไม่เข้าฉายอย่างเป็นทางการ)
ประเภท: สยองขวัญ (Horror)
กำหนดเข้าฉาย (ตามรายงาน): 2 ตุลาคม พ.ศ. 2568 (2025)
สถานะ: โปรเจกต์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เปิด “Siam Cinematic Universe”
เรื่องย่อโดยละเอียด (อ้างอิงจากชื่อเรื่องและบริบทตำนาน)
ภาพยนตร์เรื่อง “แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์” คาดการณ์ว่าจะหยิบยกเอา สองตำนานหลอน ที่เป็นที่รู้จักกันดีของชาวกรุงเทพฯ มาผสานเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นเรื่องราวสยองขวัญร่วมสมัย
1. แร้งวัดสระเกศ: ความสยองที่เกิดจากโรคระบาด
ตำนาน “แร้งวัดสระเกศ” มีที่มาจากเหตุการณ์จริงในสมัยกรุงเทพฯ ยุคต้น โดยเฉพาะช่วงที่เกิด โรคอหิวาตกโรค (หรือโรคห่า) ระบาดอย่างหนัก ทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก และการเผาศพไม่ทัน
เรื่องย่อส่วนแร้ง: ศพของผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดจะถูกนำมาทิ้งไว้ที่ บริเวณวัดสระเกศ (ภูเขาทองในปัจจุบัน) นอกกำแพงพระนคร (ที่เรียกว่า “ประตูผี”) ทำให้มี ฝูงแร้ง จำนวนมหาศาลบินลงมารุมทึ้งซากศพเหล่านั้นจนกลายเป็นภาพที่สยดสยองและติดตาผู้คนในยุคนั้น ภาพยนตร์คาดว่าจะนำเสนอความน่ากลัวของ ความตาย, การจัดการศพที่ไม่ทันการ, และ ภาพฝูงแร้ง ที่เป็นสัญลักษณ์ของหายนะและความสกปรก
2. เปรตวัดสุทัศน์: ความน่ากลัวของบาปและผลกรรม
ตำนาน “เปรตวัดสุทัศน์” นั้น ไม่ได้มาจากเหตุการณ์จริงโดยตรง แต่มีที่มาจาก ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ในพระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวรารามฯ ที่วาดภาพ เปรตตนหนึ่ง นอนเหยียดยาวขนาดใหญ่จนผู้คนสามารถจินตนาการถึงความสูงใหญ่ของมันได้ (ซึ่งบางตำนานก็เชื่อว่ามีการปรากฏตัวของเปรตจริง ๆ)
เรื่องย่อส่วนเปรต: เปรตคืออสูรกายตามคติพุทธที่เกิดจากผลของ กรรมชั่ว, การทุจริต, หรือการขโมยของสงฆ์ ภาพยนตร์คาดว่าจะนำเสนอ เรื่องราวของตัวละครที่ทำบาป และต้องชดใช้กรรมด้วยการกลายร่างเป็นเปรตที่มีรูปร่างสูงใหญ่ น่ากลัว และ หิวโหยอยู่ตลอดเวลาแต่กินไม่ได้ (ปากเท่ารูเข็ม)
การผสานเรื่องราว: โปรเจกต์ใหม่นี้น่าจะเชื่อมโยงสองตำนานเข้าด้วยกัน โดยมีแก่นเรื่องเกี่ยวกับ กรรม และ ความน่ากลัวที่ซ่อนอยู่ในวัด หรือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ที่ทำบาป กับอสุรกายที่มาจากการชดใช้กรรม
บทวิจารณ์เชิงวิเคราะห์ (Critique)
เนื่องจากภาพยนตร์ยังไม่เข้าฉาย บทวิจารณ์นี้จึงเป็น การวิเคราะห์โอกาสและศักยภาพ ของโปรเจกต์ภาพยนตร์นี้
จุดแข็งและศักยภาพ
ตำนานที่มีพลัง (Strong Mythology): ชื่อ “แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์” มีความขลังและน่าสนใจในตัวเอง เป็นตำนานที่คนไทยรู้จักกันดี ทำให้ภาพยนตร์ไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผีหรืออสุรกายมากนัก
ความสยองขวัญที่จับต้องได้ (Tangible Horror): ตำนานแร้งวัดสระเกศ เป็นความสยองขวัญที่อ้างอิงจาก ภัยพิบัติจริง (โรคระบาด) ซึ่งจะสร้างบรรยากาศ ความหวาดกลัวในชีวิตจริง ที่แตกต่างจากผีอาฆาตทั่วไป ในขณะที่เปรตเป็นการนำเสนอ ความสยองของผลกรรม ที่ยิ่งใหญ่
การสร้างจักรวาล (Cinematic Universe): การเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในโปรเจกต์ “Siam Cinematic Universe” เป็นเรื่องที่น่าจับตา หากทำได้ดี อาจเป็นการเปิดมิติใหม่ให้กับวงการหนังสยองขวัญไทย ที่จะมีการเชื่อมโยงตัวละครหรือตำนานความเชื่ออื่น ๆ ต่อไปในอนาคต
ความท้าทายและความเสี่ยง
ความคาดหวังของผู้ชม: เนื่องจากเป็นตำนานที่แข็งแรง ผู้ชมจะมีความคาดหวังสูงทั้งในด้าน ความน่ากลัว และ ความเคารพต่อประวัติศาสตร์และหลักธรรม หากการตีความบิดเบือนไปมากเกินไป หรือใช้ CG สร้างเปรตที่ไม่สมจริง อาจทำให้ผู้ชมผิดหวัง
การผสานสองเรื่อง: ความท้าทายที่สำคัญคือการ เชื่อมโยงตำนานแร้ง (ภัยพิบัติทางโลก) และ ตำนานเปรต (ผลกรรมทางธรรม) เข้าด้วยกันได้อย่างมีเหตุผลและน่าสนใจ โดยที่ไม่รู้สึกว่าเรื่องราวขาดความต่อเนื่อง
การนำเสนอภาพเปรต: การสร้าง “เปรต” ให้ออกมาน่ากลัวและแตกต่างจากภาพจำเดิม ๆ แต่ยังคงรูปลักษณ์ตามคติโบราณ (สูงใหญ่ ปากเท่ารูเข็ม) เป็นงานที่ยากและต้องใช้เทคนิคพิเศษที่มีคุณภาพสูง
คลิปตำนาน “แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์”
บทสรุป (Conclusion)
“แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์” เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ภาพยนตร์สยองขวัญไทยที่ถูกจับตามองมากที่สุด ด้วยการหยิบยกตำนานอันทรงพลังมาเป็นวัตถุดิบหลัก หากทีมผู้สร้างสามารถนำเสนอเรื่องราวของ ความบาปและความหายนะ ควบคู่ไปกับ งานภาพที่ฉูดฉาดและน่าขนลุก ตามที่ตั้งเป้าไว้ในการเปิดจักรวาลสยองขวัญ ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างสูงและกลายเป็น ภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปี 2025 ได้ไม่ยาก
หากคุณเป็นแฟนหนังสยองขวัญไทย และสนใจเรื่องราวที่มาจากตำนานโบราณอย่างลึกซึ้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ควรพลาดการติดตามอย่างยิ่ง
